22.00 น.     พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน EMIRATES (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร

01.30 น.    นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดย สายการบิน EMIRATES (EK)  เที่ยวบินที่ EK385

04.45 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

08.40 น.      นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา ประเทศสวีเดน เที่ยวบินที่ EK157

13.45 น.       เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา ประเทศสวีเดน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสต็อกโฮล์ม (Stockholm) (ระยะทาง 45 ก.ม. / 45 นาที.) เป็นเมืองหลวงของประเทศสวีเวน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก ทำให้เมืองสต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย นำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์วาซา (Vasa Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เรือรบโบราณ เป็นเรือรบที่ยิ่งใหญ่สง่างาม ประดับประดาด้วยรูปแกะสลักสมัยโบราณนับร้อยชิ้นที่ทำมาจากไม้โอ๊กทั้งลำ ทำให้เรือลำนี้ทรงอานุภาพ น่าเกรงขาม และมูลค่าลงทุนแพงที่สุดในเวลานั้น (ค่าทัวร์รวมค่าเข้าชม)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ศาลาว่าการสตอกโฮล์ม (Stockholm City Hall) เป็นที่ตั้งของสำนักงานที่รองรับคนได้ 200 คน รวมถึงสภาเทศบาล และยังเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรางวัลโนเบลซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน  นำท่านถ่ายภาพบริเวณด้านหน้า พระราชวังหลวงสต็อกโฮล์ม (Royal Palace) พระราชวังที่สวยสง่า พร้อมสถาปัตยกรรมบาโรกอันเก่าแก่ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ตั้งอยู่ระแวกเดียวกันกับย่านเมืองเก่า นำท่านเช็คอินที่ ย่านเมืองเก่า Gamla Stan ย่านเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กของสต็อกโฮล์ม ที่มีอาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงาม ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาสภาพเก่าแก่ไว้เป็นอย่างดี

เย็น     รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่1)

ที่พัก : Best Western Plus Time Hotel หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่2)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอเรโบร(Orebro) (ระยะทาง 197 ก.ม. / 3 ชม.) เป็นเมืองด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศสวีเดน นำท่านถ่ายภาพบริเวณด้านนอก ปราสาทโอเรโบร (Orebro Castle) ปราสาทที่โดดเด่นเป็นสง่าตั้งอยู่ท่ามกลางเมืองและมีแม่น้ำล้อมรอบ ปราสาท เป็นป้อมปราการของปราสาทยุคกลางที่สวาร์ตาน โดยส่วนที่เป็นหอคอยนั้นถือว่าเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท และยังมีประวัติเรื่องราวมากมายที่ลึกลับอีกด้วย ให้ท่านเดินชมด้านนอกปราสาทตามอัธยาศัย

เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่3) 

นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองคาร์ลสตัด (Karlstad) (ระยะทาง 112 ก.ม. / 1.45 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก สัญลักษณ์ของเมืองคือ รอยยิ้ม เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องกีฬาและกิจกรรมต่างๆ และยังมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์อีกด้วย

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม โบสถ์คาร์ลสตัด (Karlstad Cathedral) สร้างด้วยหินธรรมชาติและอิฐฉาบปูน ใช้เวลาในการตกแต่งภายในประมาณ 60 ปี เป็นโบสถ์สไตล์บาโรกที่มีลักษณะแบบนีโอคลาสสิก นำท่านถ่ายภาพกับ อนุสรณ์สถานสันติภาพ (Peace monument) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการสลายตัวของสหภาพอย่างสันติระหว่างสวีเดนและนอร์เวย์ในปี 1905 อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการออกแบบของอนุสรณ์ที่ผู้หญิงเหยียบหัวทหารชายนั้น จึงได้รับเลือกให้เป็นรูปปั้นที่อัปลักษณ์ที่สุดในสวีเดน

เย็น       รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่4)

ที่พัก : Good Morning Karlstad City หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่5)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ (ระยะทาง 219 ก.ม. / 3.15 ชม.) เป็นเมืองหลวงของประเทศ ศูนย์รวมความเจริญทางเศรษฐกิจ แหล่งประวัติศาสตร์ และเมืองนี้มีการดูแลเอาใจใส่ในสิ่งแวดล้อม และควบคุมเรื่องมลภาวะอย่างเคร่งครัดทำให้ถูกขนานนามให้เป็น "ปอดของยุโรป" 

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่6) 

นำท่านชม ศาลาว่าการออสโล (Oslo city hall) ได้รับการตกแต่งด้วยงานศิลปะนอร์เวย์อันยิ่งใหญ่ตั้งแต่ปี 1900-1950 โดยมีแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และชีวิตการทำงานของนอร์เวย์ ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) เป็นปราสาทและป้อมปราการ ที่มีอายุมากกว่า 700 ปี พื้นที่นี้ยังคงเป็นของทหารและได้รับการป้องกันโดยหน่วยยามของพระองค์ และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สาธารณะอีกด้วย โรงละครแห่งชาติ (National Theatre) เคยใช้เป็นเวทีหลักของนอร์เวย์สำหรับศิลปินบนเวที การแสดงละคร และการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่มาเป็นเวลากว่า 100 ปี

โอเปร่าออสโล (Oslo Opera House) สถาปัตยกรรมกลางเมืองออสโลแลนด์มาร์คสำคัญ เป็นศูนย์วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์ เป็นที่ตั้งของคณะอุปรากรและบัลเล่ต์ระดับชาติ อาคารรูปทรงเลขาคณิตที่สร้างจากกระจกและหินอ่อนขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์น มีดีไซน์อันสะดุดตา ออกแบบให้ดูเหมือนธารน้ำแข็งยักษ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำ และมีสะพานที่ลาดเอียงสีขาวโพลน

รัฐสภาแห่งนอร์เวย์ (Norwegian Parliament) เป็นสภานิติบัญญัติสูงสุดของประเทศนอร์เวย์ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2357 ตาม รัฐธรรมนูญ แห่งนอร์เวย์ ตั้งอยู่ใจกลางออสโล ตัวอาคารมีความสวยงามและมีสวนสาธารณะตรงข้าม อายุมากกว่า 150 ปี นำท่านสัมผัสกับความงดงามของศาสนสถานที่ มหาวิหารออสโล (Oslo Cathedral) ตั้งอยู่บนจัตุรัสสตอร์ตอร์เวต โดยวิหารเก่าเเก่เเห่งนี้เป็นส่วนผสมของงานสถาปัตยกรรมในเเต่ละยุคที่ลงตัว ทำให้มหาวิหารแห่งนี้มีความสวยงามคู่กับเมืองออสโลมาเนิ่นนาน นำท่านเดินเล่นเดินช้อปบริเวณพระราชวังที่มีถนนสายหลักคือ ถนน Karl Johans gate เป็นถนนที่มีทั้งร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย 

เย็น       อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อน

เช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่7)

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม สวนมนุษยชาติ Vigeland Sculpture Park สวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีมากกว่า 200 ชิ้น สวนนี้ประกอบด้วยร่างมนุษย์ที่เปลือยเปล่าในรูปแบบต่างๆ และสถานการณ์ทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงชีวิตมนุษย์ที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด โดยเฉพาะเสาหินสูงที่มีรูปปั้นร่างมนุษย์เปลือยกายทับถมกัน ทำให้เกิดความสวยงามและแปลกตาเป็นอย่างมาก จากนั้นให้ท่านอิสระถ่ายภาพคู่กับ รูปปั้น Gustav Vigeland Statue และเดินชมประติมากรรมต่างๆ ในสวนได้ตามอัธยาศัย

เที่ยง       รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่8)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานี DFDS Seaways Oslo Terminal เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ท่านได้สัมผัสการใช้ชีวิตบนเรือสำราญสุดอลังการ นอกจากความอลังการของเรือนั้นแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ร้านปลอดภาษี สระว่ายน้ำบนดาดฟ้าเรือ อ่างแช่น้ำร้อน ห้องเล่นเกม บาร์ ไนต์คลับ ภัตตาคาร ฯลฯ ให้ท่านได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินสนุกสนานไปกับการล่องเรือในค่ำคืนนี้ (ค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือบางอย่าง ไม่รวมในค่าทัวร์)

เย็น       รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่9)  

ที่พัก : On board (Inside Cabin with 2 lower beds)

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนวันเดินทาง)

เช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่10)  

นำทุกท่านลงสู่ สถานี DFDS Seaways Copenhagen Terminal ณ ประเทศเดนมาร์ก และจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอเดนเซ (Odense) (ระยะทาง 165 ก.ม. / 2.30 ชม.) ซึ่งเต็มไปด้วยคฤหาสน์อันงดงามและพระราชวังโอเดนเซ่ตั้งชื่อตามเทพเจ้านอร์สแห่งสงครามภูมิปัญญาและบทกวีโอดิน

เที่ยง      รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่11)

นำท่านถ่ายภาพด้านนอกกับ พิพิธภัณฑ์ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) ตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนเซซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักเขียนชาวเดนมาร์ก ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน นักเขียนนิทานผู้มีชื่อเสียงระดับโลก เจ้าของผลงาน The Little Mermaid , The Snow Queen (ดัดแปลงมาสู่ภาพยนตร์ดัง Frozen) , The Little Match Girl (เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ) , The Ugly Duckling (ลูกเป็ดขี้เหร่), Thumbelina เจ้าหญิงตัวจิ๋ว เป็นต้น จากนั้นให้ถ่ายภาพด้านนอก อาสนวิหารเซนต์คานูต (St. Canute's Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่ออาสนวิหารโอเดนเซตั้งอยู่ใกล้จัตุรัสศาลากลาง หอนาฬิกาสูง สีสันเรียบง่าย สง่างาม โดดเด่นมาก ภายในโบสถ์เรียบง่าย ด้านหลังเป็นสวนเทพนิยายอันโตสัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ศาลากลางโอเดนเซ่ (Brandts town hall) ซึ่งเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดที่สร้างขึ้นด้วยอิฐสีแดงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และใช้ลวดลายสไตล์โกธิคสไตล์อิตาเลียน การปรับปรุงเพิ่มเติมของอาคารที่เกิดขึ้นระหว่าง 1936 และ 1955 ห้องโถงมีงานศิลปะจำนวนมากรวมทั้งประติมากรรม

นำท่านเดินทางสู่ถนนคนเดินเวสเตอร์เกด (Vestergade street) และ ถนนคองเกนเกด (Kongensgade street) เป็นอาคารที่ผสมผสานความหลากหลาย ร้านค้าวินเทจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน ให้ท่านได้อิสระเดินเล่นตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) (ระยะทาง 165 ก.ม. / 2.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเรียกขานเมืองนี้ว่า เมืองแห่งเทพนิยาย เพราะมีสภาพแวดล้อมพร้อมบรรยากาศที่สวยงามและอากาศบริสุทธิ์ ถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม มีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิตที่หลากหลายอีกด้วย

เย็น     รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่12)

ที่พัก : Scandic Hvidovre หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่13)

นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านนอก พระราชวังคริสเตียนบอร์ก (Christiansborg Palace) หนึ่งในพระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุด ภายในประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญๆ อาทิรัฐสภา ศาลฎีกาและห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ หลายๆ ส่วนของพระราชวังยังใช้ในการจัดงานราชพิธีของราชวงศ์เดนมาร์กอีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านนอก พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg) เป็นพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก เป็นที่ตั้งของพระบรมรูปทรงม้าที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับราชวงศ์ที่จัดแสดงเรื่องราวและข้าวของสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายภาพเช็คอิน น้ำพุเกฟิออน (Gefion Fountain) เป็นอนุสาวรีย์ที่เป็นตำนานในการสร้างประเทศ โดยมีตำนานเล่าขานกันว่าเทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้พระนางเกฟิออนกอบกู้ชาติ โดยพระนางได้แปลงร่างของโอรสทั้ง 4 ให้กลายเป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ ทำให้เกิดเป็นประเทศเดนมาร์กในทุกวันนี้และถ่ายภาพกับ รูปปั้นนางเงือก (The little Mermaid) เป็นสัญลักษณ์ของเดนมาร์กที่ตั้งอยู่บนหินริมทางเดินน้ำ รูปปั้นที่มาจากเทพนิยายเรื่องเด่นของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน บริเวณท่าเรือหลักของเมืองโคเปนเฮเกน

เที่ยง       รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่14)

นำทุกท่านถ่ายภาพด้านนอกกับ พระราชวังโรเซนเบิร์ก (Rosenborg Palace) เป็นพระราชวังที่ตกแต่งด้วยศิลปะแบบดัตช์เรอเนสซองส์ สร้างในสมัยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่มีความงามของตัวตึกภายในและภายนอกที่ตกแต่งอย่างหรูหรา จะมีทุ่งหญ้าสีเขียวที่ล้อมปราสาทเป็นวิวที่สวยงามสบายตา จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง ถนนคนเดิน Strøget แหล่งช้อปปิ้งปลอดรถยนต์ เป็นถนนคนเดินช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดสายหนึ่งในยุโรประยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองเก่าของโคเปนเฮเกน เป็นถนนที่มีชื่อเสียง

เย็น        อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

 ที่พัก : Scandic Hvidovre หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่15)

อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

15.35 น.   เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน EMIRATES (EK)  เที่ยวบินที่ EK0152

23.45 น.   เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

02.50 น.    เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK384

12.30 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ